วาล์วประตูน้ำ (Gate Valve) มักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อควบคุมการไหลของของเหลว อย่างไรก็ตามการใช้งานวาล์วประตูก็มีข้อจำกัดบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเปิดช้าๆหรือปล่อยให้ของเหลวไหลผ่านได้เพียงเล็กน้อย

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงปัญหา 5 ประการของ Gate Valve ที่ทำให้ไม่เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ดังกล่าว

1.) แรงเสียดทานและแรงดันตกสูง
• ปัญหาหลักประการหนึ่งของวาล์วประตูคือแรงเสียดทานที่สูง และแรงดันตกเมื่อเปิดช้าๆ หรือเพียงบางส่วนสาเหตุมาจากการออกแบบวาล์ว ซึ่งประกอบด้วยกลไกประตูเลื่อนที่ต้องยกขึ้นจนสุดเพื่อให้ของเหลวไหลได้

• ดังนั้นแม้ว่าวาล์วจะเปิดเล็กน้อย การสัมผัสระหว่างประตูและที่นั่งก็ยังคงมีมากทำให้เกิดแรงเสียดทานและแรงดันตกเพิ่มขึ้นซึ่งอาจเป็นปัญหาในระบบที่จำเป็นต้องไหลช้าๆ และสม่ำเสมอเนื่องจากอาจทำให้ปั๊มและอุปกรณ์อื่นๆ ต้องรับแรงกดดันที่ไม่จำเป็น

2.) การควบคุมอัตราการไหลที่จำกัด
• ปัญหาอีกประการหนึ่งของวาล์วประตูน้ำ คือการควบคุมอัตราการไหลมีจำกัดเนื่องจากการออกแบบของวาล์วไม่เอื้อต่อการปรับขนาดของช่องเปิดอย่างแม่นยำ

• ส่งผลให้ยากต่อการควบคุมปริมาณของเหลวที่ไหลผ่านวาล์วอย่างแม่นยำ ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้โดยเฉพาะในการใช้งานที่อัตราการไหลเฉพาะมีความสำคัญ เช่นในกระบวนการทางเคมีหรือระบบชลประทาน

3.) ความเสี่ยงต่อการเสียหาย
วาล์วประตูน้ำ (Gate Valve) ยังมีแนวโน้มที่จะเสียหายได้หากเปิดช้าหรือเปิดเพียงบางส่วนดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การออกแบบของวาล์วประตูนี้ใช้กลไกประตูบานเลื่อนที่ต้องยกขึ้นเต็มที่เพื่อให้ของเหลวไหลได้

• เมื่อเปิดเพียงบางส่วนหรือช้าเกินไปกลไกนี้ อาจติดขัดหรือขัดข้องได้เนื่องจากเศษวัสดุหรือการกัดกร่อนที่สะสมอยู่ในตัววาล์ว ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานผิดปกติหรืออาจถึงขั้นวาล์วเสียหายทั้งหมดส่งผลให้ต้องหยุดทำงานและต้องซ่อมแซมซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

4.) ความต้องการการบำรุงรักษาที่สูงขึ้น
• ปัญหาที่กล่าวถึงข้างต้นของวาล์วประตูน้ำ ยังส่งผลให้ต้องมีการบำรุงรักษาสูงกว่าวาล์วประเภทอื่นแรงเสียดทานและแรงดันตกที่สูง อาจทำให้ส่วนประกอบของวาล์วสึกหรอจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยครั้ง

• นอกจากนี้วาล์วประตูยังเสี่ยงต่อการเสียหายเมื่อเปิดช้าหรือเปิดเพียงบางส่วน ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องตรวจสอบและทำความสะอาดวาล์วประตูเป็นประจำ เพื่อป้องกันการทำงานผิดปกติซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการบำรุงรักษา โดยรวมและอาจสร้างความไม่สะดวกอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาวาล์วประเภทนี้

5.) การใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ
• สุดท้าย วาล์วประตูน้ำไม่เหมาะสำหรับการเปิดช้าๆ หรือเปิดเฉพาะพื้นที่เล็กๆของการไหล เนื่องจากไม่ประหยัดพลังงาน ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้การออกแบบของวาล์วประตู ทำให้เกิดแรงเสียดทานและแรงดันตกสูง

• ซึ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อเอาชนะปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่จำเป็นต้องควบคุมอัตราการไหลอย่างแม่นยำ เนื่องจากอาจส่งผลให้ใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น

โดยสรุป แม้ว่าวาล์วประตูน้ำจะมีข้อดีในการใช้งานบางประเภทแต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการเปิดช้าๆ หรือเปิดเฉพาะบริเวณที่มีการไหลเพียงเล็กน้อยข้อจำกัดในการออกแบบทำให้มีแรงเสียดทานและแรงดันตกสูง ควบคุมอัตราการไหลได้จำกัดเสี่ยงต่อการเสียหาย ต้องมีการบำรุงรักษาสูงกว่า และใช้พลังงานไม่มีประสิทธิภาพ

ในกรณีดังกล่าว วาล์วประเภทอื่นๆ เช่น วาล์วโลกหรือวาล์วผีเสื้ออาจเหมาะสมกว่าเนื่องจากควบคุมอัตราการไหลได้ดีกว่าและสูญเสียแรงเสียดทานน้อยกว่า จำเป็นต้องพิจารณาข้อกำหนดเฉพาะของการใช้งานอย่างรอบคอบ ก่อนเลือกประเภทของวาล์วเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เหมาะสมที่สุด

อ้างอิงจาก
https://tnspartsthai.wordpress.com